G-Shock Riseman G-9200-1DR
พวกชอบการท่องเที่ยว โดยเฉพาะเมื่อถึงวันหยุดยาวที่ไร
เป็นต้องออกต่างจังหวัด ไปเที่ยวภูเขา น้ำตก ชมวิวทิวทัศน์
หรือไปถ่ายรูปวิวต่างๆ
เพื่อพักผ่อนหย่อนใจและผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงาน
สำหรับท่านที่ชอบท่องเที่ยว ภูเขา น้ำตก ล่ะก็ ขอแนะนำ นาฬิกา Casio G-Shock Riseman G-9200-1DR ซึ่ง นาฬิกา CasioG-Shock Riseman G-9200-1DR นี้ มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่เหมาะกับการท่องเที่ยวประเภทดังกล่าวอย่างมาก
นาฬิกา Casio G-Shock Riseman G-9200-1DR
รหัสสินค้าที่เกี่ยวข้อง
G-9200, G-9200-1, G-9200-1D, G-9200-1DR , Casio G-Shock Riseman: G-9200-1DR
นอกจากตัวเรือนที่มีขนาดใหญ่ เหมาะกับสุภาพบุรุษแล้ว G-9200-1DR ยัง
จัดอยู่ใน หนึ่งในสามสุดยอด Master of G ที่มีความทนทานสูง
ผ่านบททดสอบอันหฤโหดในเรื่องความอึด อาทิ เช่น
ทดสอบความทนทานเนื่องจากการตกกระแทกจากที่สูง (Shock Resist)
การกระแทกโดยลูกสูบ (Piston Test) เหมือนกับ นาฬิกา Casio G-Shock Mudman
G-9000 และ Casio G-Shock Gulfman G-9100 ครับ
ความ
แตกต่างต่างนอกจาก รุปลักษณ์ภายนอกแล้ว สิ่งที่สำคัญคือ
ความแตกต่างเรื่องฟังก์ชั่นการใช้งาน เช่น Gulfman คอนเซ็ปของฟังก์ชั่นคือ
การดูเวลาน้ำขึ้นน้ำลง และข้อมูลดวงจันทร์
เพื่อประโยชน์ในการวางแผนการท่องเที่ยวทางน้ำ เช่น การล่องเรือ ตกปลา
แต่ นาฬิกา Casio G-Shock Riseman G-9200-1DR นี้ Riseman คอนเซ็ปของฟังก์ชั่นคือ การวัดความสูง และการพยากรณ์ลมฟ้าอากาศ อุณหภูมิ เพื่อประโยชน์ในการท่องเที่ยว ปีนเขา เดินป่าครับ
นาฬิกา Casio G-Shock Riseman G-9200-1DR มี
ฟังก์ชั่นที่เป็นจุดเด่น หรือ ที่เรียกว่าเป็นจุดขายของรุ่นนี้อยู่
สองโหมดครับ คือ Altimeter mode และ Barometer / Thermometer Mode
ซึ่งต่างจากฟังก์ชั่นทั่วไปของนาฬิกา Casio รุ่นอื่นๆ
ซึ่ง
Altimeter Mode นี้ เป็นโหมดวัดระดับความสูง โดย
เซ็นเซอร์ด้านซ้ายมือของนาฬิกา เป็นเซ็นเซอร์ที่ไว้จับค่าความกดอากาศ
ในระดับที่ท่านยืนอยู่ จากนั้นก็แปลงคำนวณออกมาเป็นระดับความสูง
โดยใช้มาตรฐานของ ISA (Internation Standard Atmosphere)
ซึ่งพูดกันง่ายๆคือ
แปลงจากค่าความกดอากศในปัจจุบันให้เป็นระดับความสูงโดยการคำนวณของวงจรใน
นาฬิกา
ผุ้
ใช้สามารถวัดความสูงโดยใช้ค่าเริ่มต้นของนาฬิกา (Preset Value) หรือ
ถ้าจะให้แม่นยำมากขึ้นโดยการกำหนดความสูงอ้างอิงเอง (Specified Referece
Attitude) เมื่อกำหนดความสูงเองในกรณีปีนเขา ยังสามารถมาร์ก
ความสูงระหว่างจุดสองจุด เพื่อการคำนวณและวัดค่าที่ถูกต้องแม่นยำยิ้งขึ้น
อีก
โหมดนึงที่สำคัญคือ Barometer / Thermometer Mode
ซึ่งเป็นโหมดที่วัดความกดอากาศ สามารถแสดงเป็นกราฟผ่านช่องวงกลมสีแดง
(Barometric Pressure Graph) หรือ แสดงโดยเครื่องหมายแสดงการเปลี่ยนแปลงค่า
(Barometric Pressure Change Indicator) ซึ่งแสดงโดยสัญลักษณ์
และสัญลักษณ์นี้จะแทนด้วยค่าหน่วยวัดที่กำหนดในนาฬิกา
ในโหมดเดียวกัน ก็มี Thermometer Mode ซึ่งจับค่าอุณหภูมิ โดยตัวเซ็นเซอร์ทางด้านซ้ายของนาฬิกา
นี่คือ ตัวเซ็นเซอร์ (Sensor) ของนาฬิกา Casio G-Shock G-9200-1DR ที่ไว้วัดค่าความกดอากาศ เพื่อเปลี่ยนเป็นความสูง และอุณหภูมิในปัจจุบันเพื่อเก็บค่าไว้ในหน่วยความจำของนาฬิกา
ซึ่ง
ในโหมด Barometer นี้ จะสามารถพยากรณ์อากาศได้ว่า อากาศจะเป็นอย่างไร
จากกราฟ ในช่องสีแดง ซึ่งจากกราฟสามารถพยากรณ์ สภาพอากาศอันใกล้จะถึงได้ว่า
อากาศจะดีหรือเลวร้ายอย่างไร มากน้อยแค่ไหน
ด้านขวามือของ นาฬิกา Casio G-Shock
Riseman G-9200-1DR จะมีปุ่มแดงๆ อยู่ ซึ่งเป็นปุ่ม Short Cut เข้าสู่
Altimeter mode ได้ทันที โดยไม่ต้องกดปุ่ม
ซ้ายล่างเพื่อไล่ฟังก์ชั่นไปเรื่อยๆ นับว่าสะดวกและประหยัดเวลาได้มาก
หน้าปัด
แสดง เวลา วันและวันที่ เดือน ปี ไว้อย่างครบครับ นอกจากนั้น
ยังมีปุ่มเปิดไฟ อยู่ด้านหน้า สลักตัว G ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ G-Shock
รูปถ่ายสายด้านข้างของนาฬิกา Casio G-Shock Riseman G-9200-1DR
รูปถ่ายสายด้านหลัง ของ G-Shock Riseman G-9200-1DR รูกลัดสายเป็นแบบคู่ (Double Hole)
เทียบกับฝ่ามือของผู้ชายแล้ว ก็ใหญ่พอสมควรครับ เหมาะกับสุภาพบุรุษ ชอบแนวลุยๆมากๆ
โอ๊ะ ฝาหลังถูกสติ๊กเกอร์ปิดทับครับ งั้นดูรูปต่อไปเลยดีกว่า
ฝาหลัง เป็นรูปมังกรครับ G-9200-1DR Module
number 3148 ฝาหลังทำจากสแตนเลสสตีล เหมือนรุ่น Casio G-Shock Mudman
G-9000 ในขณะที่ Casio G-Shock Gulfman ฝาหลังจะทำจากไทเทเนียม (Titanium)
และเป็น Made in Thailand เหมือน G-Shock รุ่นอื่นๆครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น